ประวัตินักกีฬาไอซ์สเก็ต น้องมอส หรือ ณัฏฐพัฒน์ กาญจน์ชริน

ในการแข่งขันซีเกมส์ครั้งล่าสุดที่ประเทศฟิลิปปินส์ เชื่อว่าการแข่งขันกีฬาสเก็ตน้ำแข็ง แม้การแข่งขันจะเย็นจากน้ำแข็งจากลานไอซ์สเก็ต แต่บอกเลยว่าการแข่งขันดุเดือดร้อนแรงมาก ไทยเราเองสามารถคว้าเหรียญรางวัลจากการแข่งซีเกมส์ครั้งล่าสุดได้ด้วย หนึ่งในนั้นก็คือ น้องมอส ณัฏฐพัฒน์ กาญจน์ชริน สามารถคว้าเหรียญทองจากประเภทสปีดสเก็ตติ้งช็อตแทรก

การแข่งขันสปีดสเก็ตติ้ง

ก่อนอื่นเราต้องบอกว่า กีฬาชนิดนี้เป็นการแข่งขันที่เร็วมาก ลองนึกภาพว่านักกีฬาทีมละ 2 คน จะแข่งกันวิ่งบนลานสเก็ต ด้วยความเร็วสูงสุด เหมือนกับวิ่งแข่งในกีฬากรีฑา มันจะเร็วถึงเร็วมากและอันตรายมากด้วย หากเผลอเพียงแค่ชั่วเสี้ยววินาทีเราอาจจะล้มลงไปนอนกับพื้นภายแพ้ได้เลย
ผลงานของน้องมอส

สำหรับผลงานของน้องมอส เราขอเอาผลงานในซีเกมส์ครั้งล่าสุดที่ก็แล้วกัน เค้าสามารถสอดแทรกเป็นม้ามืดขึ้นไปคว้าเหรียญทองในรายการแข่งขันสปีดสเก็ตติ้งช็อตแทรก ระยะทาง 500 เมตร เข้าทำเวลาได้ 43.763 วินาที ซึ่งถือว่าเป็นเวลาที่เร็วมาก แซงหน้ารุ่นพี่หลายคน รวมถึงรุ่นพี่ร่วมชาติที่หล่นทำได้เพียงแค่เหรียญทองแดงเท่านั้น ไม่เพียงเท่านั้นจากการเก็บคะแนนสะสมมาตลอดทำให้ทั้งคู่สามารถผ่านการตัดตัวทำอันดับไปเล่นยูธโอลิมปิคได้ด้วย น่าเสียดายว่าตั๋วใบนี้แม้ทั้งคู่จะมีสิทธิ์แต่ทีมต้องหนีบไปได้เพียงแค่ 1 คนเท่านั้น ต้องมาดูกันว่าใครจะได้ไป แล้วลืมบอกไปว่า ตัวน้องทำได้อายุยังไม่ถึง 20 ปีเลย

จากโรลเลอร์ สู่สปีดสเก็ตติ้ง

น้องมอสเล่าให้เราฟังว่า เดิมทีเจ้าตัวไม่ได้เล่นกีฬาชนิดนี้มาก่อน เค้าเล่นกีฬาความเร็วที่คล้ายกันอย่าง โรลเลอร์สเก็ต มาเป็นพื้นฐาน จากนั้นได้มีคนมาชักชวนให้เค้ามาลองกีฬาสปีดสเก็ตติ้งดู หลังจากที่ลองเล่นสักพัก เค้ารู้สึกว่า กีฬาชนิดนี้เหมาะกับตัวเค้ามากกว่า เค้าเลยเบี่ยงเบนจากกีฬาโรลเลอร์สเก็ต มาเป็น สปีดสเก็ตติ้งแทน ซึ่งเอาเค้าจริงมันทำให้เค้าวิ่งได้เร็วกว่าเดิมอีกเยอะเลย

ซ้อม ซ้อม ซ้อม แล้วก็ซ้อม

วันนี้เราอาจจะเห็นเค้าประสบความสำเร็จในรูปแบบเหรียญรางวัลซีเกมส์ ซึ่งเป็นอีกหนึ่งเหรียญประวัติศาสตร์วงการไอซ์สเก็ตบ้านเราด้วยเหมือนกัน แต่ภายใต้รอยยิ้มแห่งความสำเร็จในวันนี้ น้องมอสต้องการผ่านการฝึกซ้อมมาอย่างหนักมาก เค้าซ้อมทุกวันแบบไม่มีวันหยุดตามโปรแกรมที่เราได้เล่าไป น้องมอสบอกว่าเค้าไม่อยากจะพัก เค้าไม่อยากขี้เกียจซ้อม เพราะหากขี้เกียจซ้อมจะทำให้เค้ากลับมายืนในจุดเดิมยาก น้องมอสเล่าว่าการหยุดพักการซ้อมจะทำได้ก็ต่อเมื่อ โค้ชบอกให้พักเท่านั้น ถือว่าเป็นทัศนคติที่ดีของนักกีฬาที่เราควรนำเป็นเยี่ยงอย่างในการซ้อมกีฬา หรือ ใครจะนำความพยามยามของน้องเป็นหลักในการดำเนินชีวิต ทำงาน เรียนหนังสือก็ได้

งานอดิเรก

กว่าจะมาถึงตรงนี้ได้ ต้องบอกว่าน้องมอสซ้อมหนักมาก ซ้อมในระดับนักกีฬาอาชีพคนอื่นในทีมชาติเลย ซ้อมเป็นสองมื้อ มื้อเช้าตั้งแต่ 05.00-10.00 และมื้อเย็นตั้งแต่ 17.00-21.00 ทุกวัน ไม่มีวันหยุด ช่วงบ่ายก็จะได้พักผ่อนกล้ามเนื้อ และทำงานอดิเรก ทีนี้น้องมอสเราขอกระซิบอย่างหนึ่งว่าเค้าเป็นแฟนซีรีย์เกาหลีตัวยงเลย ส่วนหนึ่งเป็นเพราะว่าเค้าต้องการเรียนภาษาเพื่อการสื่อสารกับคนซ้อมทีมที่เป็นคนเกาหลี ไปๆ มาๆ กลายเป็นดูจนติดเป็นความชอบ งานอดิเรกไป

ด้วยวัยยังไม่ถึง 20 ปี ทำให้โอกาสและอนาคตของน้องมอสในวงการ สปีดสเก็ตติ้ง ยังอีกไกลมาก เราเองในฐานะคนดูก็ต้องเอาใจช่วยน้องในการแข่งขันรายการต่อไปทั้งในเวทีสโมสร และ เวทีนานาชาติ